ทำความรู้จักกับเพชรแฟนซีคัต

 
  รูปทรง (shape) ของเพชร แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ ทรงกลม และ ทรงอื่นๆ หรือที่เรียกว่า เพชรแฟนซีคัต หรือ เพชรแฟนซีเชป  เพชรแฟนซีคัตมีมากมายหลายรูปทรง ทรงที่เป็นที่นิยมที่สุดก็น่าจะเป็นทรงสี่เหลี่ยม หรือที่เรียกว่า Princess Cut Diamond และ ทรงหัวใจ หรือ Heart Shaped Diamond สิ่งสำคัญที่ต้องรู้เกี่ยวกับการเลือกซื้อเพชร Fancy Cut ก็คือ เพชร Fancy Cut จะไม่มีการให้คะแนนทางด้านการเจียระไน (Cut) ในใบเซอร์เราจะเจอเพียงแค่คะแนนการเกรดเรื่อง Polish และ Symmetry เท่านั้น ดังนั้นในเพชร Fancy Cut จะมี EX สูงสุดที่ 2EX เท่านั้น (ในเพชรกลมคือ 3EX) สาเหตุ คือ ทรงที่หลากหลายนั้น ยากต่อการกำหนดมาตรฐานในการเจียระไนที่จะสามารถใช้ได้กับทุกรูปทรง ทาง GIA จึงให้ guideline เรื่องความสวย ความคุณภาพในการเจียระไน (cut) ของเพชร Fancy Cut ว่าให้ตัดสินด้วยตาเนื้อของแต่ละบุคคล อีกทั้งยังบอกว่าเป็นเรื่องของส่วนบุคคลที่จะลงความเห็นว่าการเจียระไนรูปทรงต่างๆ ของเม็ดนั้นๆ มันสวยหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น เพชรทรงหัวใจ มีทั้งหัวใจทรงป้อม หัวใจทรงยาว หัวใจทรงป้านๆ อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลล้วนๆ จะไม่ใช่การให้คะแนนความเป๊ะในเชิงตัวเลขสถิติอย่างเช่นที่ทำในเพชรกลม อย่างไรก็ดี ยังพอมีเกณฑ์คร่าวๆ บางอย่างที่พอจะให้ guideline เอาไว้ได้ สำหรับการเลือกให้ได้เพชร Fancy Cut ที่ดีนะคะ ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลต่อราคาด้วยค่ะ

ข้อที่เราควรคำนึงถึงเวลาเลือกเพชรแฟนซีคัตนั้นได้แก่

1. Length to Width Ratio:  คือสัดส่วน ความยาว หารด้วย ความกว้าง แต่ละร้านจะมี recommended ratio ที่ต่างกัน และแต่ละทรงก็มี Length to Width Ratio ที่แตกต่างกันด้วยค่ะ ในหัวข้อนี้เราใช้ความชอบของเราตัดสินใจได้ ว่าเราชอบทรงก็เพชรนั้นมั้ย สำหรับคุณแล้ว คุณเห็นเพชรแล้วรู้สึกว่า สวย หรือ ทรงแปลก ถ้าคุณรู้สึกว่ามันสวย นั้นคือ ratio ที่คุณชอบค่ะ ดังนั้นจึงสำคัญมากๆ ที่คุณควรจะได้เห็นเพชรก่อนการตัดสินใจซื้อค่ะ 2. Bow Tie Effect ในเพชรทรงออกยาวๆ จะมีสิ่งที่เรียกว่า Bow Tie ซึ่งก็คือเงาดำๆ ที่พาดอยู่ช่วงกลางของตัวเพชร เงาดำนี้มีรูปร่างที่คล้ายกับ Bow Tie ที่คุณผู้ชายใส่กับสูทออกงานนั่นเองค่ะ ในการเลือกเราจะเลือกที่มี Bow Tie จางๆ มองเห็นแว่บๆ ไม่ชัดมาก Bow Tie มีความสัมพันธ์กับ Ratio ในข้อ 1 ด้วยนะคะ ยิ่งความยาวมาก Bow Tie จะบางลงค่ะ 3. Symmetry ความสมส่วนของรูปทรงทั้งสองฝั่ง สามารถเช็คได้ง่ายๆ จากตาเปล่าตามภาพด้านล่างนี้ค่ะ 3. Total Depth ไม่ควรลึกเกินไป มีผลทำให้หน้าเพชรเล็ก และมืด ไม่คุ้มค่าเงินของเราเลยค่ะ ข้อสังเกตุคือในเพชร Fancy Cut ที่ทรงออกยาวๆ จะมีข้อดีคือ หน้าจะใหญ่มากกว่าเพชรกลมในน้ำหนักเดียวกับแบบเห็นได้ชัด ฉะนั้นถ้าหากว่าเพชรเม็ดนั้นดูแล้วเกือบๆ เท่ากับเพชรกลม แสดงว่าก้นเพชรอาจจะค่อนไปทางลึกนั่นเองค่ะ และที่สำคัญอย่าลืมดูภาพรวมของเพชรเม็ดนั้น และการเล่นไฟของเพชรด้วยนะคะ เพชร Fancy Cut จะค่อนข้างเก็บสีได้ดี ทำให้สามารถเลือกเพชรที่สีไม่ต้องสูงมาก เช่น G, H ก็ยังสวยไม่เห็นความเหลืองชัดเจนค่ะ และยังมีราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจกว่าเพชรกลมมาก จึงเป็นอีกตัวเลือกที่น่าจับตามอง เอามาลง wish list ของคนรักเพชรได้เลยค่ะ
Written by
Sornsida Y. Chanonprapa (G.D. GIA 2015)
Diamond Nerd จากสถาบัน GIA ศึกษาเรียนรู้ หัด grading เพชรมาโดยเฉพาะ บวกกับพื้นฐานเป็นลูกช่างทอง มีประสบการณ์ทำงานใน Field จิวเวลรี่มากว่า 20ปี จึงอยากใช้พื้นที่นี้แบ่งปันความรู้และประสบการณ์กับทุกคนค่ะ