ทำความรู้จักกับ Rapaport

 


 

วันนี้ Y.Jewelry (Thailand) ขอพาผู้อ่านทุกท่านมาทำความรู้จักกับ Rapaport สิ่งที่คนซื้อขายเพชรมักจะเรียกกันย่อๆ ว่า “Rap” กันนะคะ

Rapaport หรือ Rap คือ ตารางราคากลางเพชรที่ใช้เป็นราคาอ้างอิงในการซื้อขายเพชรทั่วโลก

โดยจัดกลุ่มราคาออกเป็นช่วงน้ำหนักของเพชร ซึ่งมีทั้งหมด 18 ช่วงน้ำหนัก (สำหรับเพชรกลม) และ 14 ช่วงน้ำหนัก (สำหรับเพชรแฟนซีคัต) ในแต่ละช่วงน้ำหนัก จะแสดงเป็นตารางระบุราคาเพชร ที่แยกย่อยไปตามคุณลักษณะของเพชรทั้ง 4 หรือที่เรารู้จักกันในนาม 4Cs นั่นเองค่ะ


วิธีการอ่านราคาเพชรจาก Rapaport Diamond Report

☰ ขั้นแรก ☰  

รู้สเปคเพชรที่เราต้องการทราบราคา สเปคในที่นี้รวมถึง

1. เป็นเพชรกลม หรือ เพชรทรงแฟนซี (สองอย่างนี้ใช้ Rapaport แยกกันค่ะ)
2. น้ำหนักของเพชร  สี และความสะอาด


☰ ขั้นที่ 2 ☰  

เลือกตารางราคาตามช่วงน้ำหนักของเพชรที่เราต้องการทราบราคา เช่น เพชรของเราน้ำหนัก 32 ตังค์ ให้ไปดูที่ตารางช่วงน้ำหนัก 0.30-0.39 CT.


☰ ขั้นที่ 3 ☰  

แต่ละตาราง จะระบุราคาของเพชรแยกออกตาม สี และ ความสะอาดของเพชร โดยที่สีจะเป็นคอลัมน์แนวตั้ง ส่วนความสะอาดจะเป็นคอลัมน์แนวนอนซึ่งไล่ระดับความสะอาดสูงสุด
คือ IF จากฝั่งซ้าย ไปยังฝั่งขวาซึ่งจะค่อยๆ ไล่ระดับความสะอาดไปถึงเกรดต่ำสุด คือ I3
เมื่อเข้าใจตามนี้แล้วให้เลือกตัวเลขในตารางนั้นๆ ที่เป็นจุดตัดร่วมของสี และ ความสะอาด ของเพชรที่เราต้องการเชคราคา ดังในรูปด้านล่าง ต้องการดูราคาของเพชรกลม
ขนาด 32 ตังค์ สี F ความสะอาด VS1 ที่จุดตัดร่วมของสีและความสะอาดดังกล่าว เราจะได้ตัวเลข 21


☰ ขั้นที่ 4 ☰ 

เมื่อได้ตัวเลข 2 หลักมาแล้ว ให้เติม “ศูนย์” เข้าไป 2 ตัว (หรือ คูณ 100) ตามตัวอย่างก่อนหน้านี้ เราจะได้ 2100


☰ ขั้นที่ 5 ☰  

ตัวเลขที่ได้นี้ เป็นราคา ต่อกะรัต ในสกุลเงิน US dollars ซึ่งเราต้องนำเอาค่าเงิน ณ วันนั้นคูณเพื่อทำให้เป็นสกุลเงินไทย และหลังจากนั้นคูณด้วยน้ำหนักเพชรของเรา

  • จากตัวอย่างเราจะได้สูตรคำนวณ คือ 2,100*35บาท = 73,500/กะรัต
  • น้ำหนักเพชรของเรา คือ 32 ตังค์ = 73,500*0.32
  • ดังนั้นราคากลางของเพชร สเปค 32 ตังค์ สี F ความสะอาด VS1 = 23,520 บาท

PS. ***อย่าลืมนะคะว่าราคาใน Rapaport นี้ เป็นเพียงราคากลางที่ใช้อ้างอิงในการซื้อขายเท่านั้น ไม่ใช่ราคาที่สามารถใช้ได้ทันที โดยมากผู้ขายจะให้ส่วนลดเป็น % จาก Rapaport Price ซึ่งส่วนลดจะมากจะน้อยนั้น แล้วแต่ปัจจัยหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นความ Rare ของสเปคนั้นๆ ความนิยมในขณะนั้น จำนวนของที่มีในตลาดในตอนนั้น เป็นต้น

ดังนั้นผู้ซื้อเพชรทุกคนควรจะศึกษาวิธีการอ่านราคา จาก Rapaport ให้เป็น เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตามการมี reference point นั้น ย่อมดีกว่าแน่นอนค่ะ


Written by
Sornsida Y. Chanonprapa (G.D. GIA 2015)
Diamond Nerd จากสถาบัน GIA ศึกษาเรียนรู้ หัด grading เพชรมาโดยเฉพาะ บวกกับพื้นฐานเป็นลูกช่างทอง มีประสบการณ์ทำงานใน Field จิวเวลรี่มากว่า 20ปี จึงอยากใช้พื้นที่นี้แบ่งปันความรู้และประสบการณ์กับทุกคนค่ะ