---

 

วันนี้เราจะมาแนะนำแนวแหวนสำหรับคู่แต่งงานที่กำลังมองหาสไตล์แหวนคู่ ที่ไม่จำเจและสามารถใส่ได้ทุกวัน ลองเลือกดูนะคะ

1.เหมือนกันเป๊ะ 

แหวนคู่ที่เป็นแฝดกันในทุกแง่ไม่ว่าจะรายละเอียดแบบ ขนาดหน้าแหวน สีของชิ้นงาน เพชร พลอย ทุกอย่างคือ 1เดียว ข้อดีคือการออกแบบง่าย ราคาอาจจะย่อมเยาว์กว่า เพราะเหมือนกับทําแบบเดียว

2.เหมือนกันบางส่วน

เป็นลูกเล่นการออกแบบที่นําเอาแบบตั้งต้นมาปรับให้แหวนทั้งสองไม่เหมือนกันเป๊ะแบบ 100% แต่ดีไซน์ยังมีบางส่วนที่มีรูปแบบร่วมกันอยู่บ้าง ให้ดูรู้ว่ามันคือแหวนที่ออกแบบมาคู่กัน อาจเพิ่มเติมรายละเอียดให้แหวนผูหญิงมีหน้างานเล็กกว่าแหวนผูชายเพิ่มเติมด้วยก็จะได้งานที่สนุกมากขึ้น 

3.มีเพชรพลอย vs เกลี้ยงๆ

เทคนิคนี้จะช่วยตัดปัญหาที่คนนึงชอบเพชรพลอย แต่อีกคน (ซึ่งมักจะเป็นผู้ชาย) ที่ไม่ชอบเพชรหรือพลอยเอาเสียเลยโดยให้ดีไซน์ของตัวแหวนคลาย หรือ แตกต่างกันเล็กน้อย เพิ่มความแปลกใหม่ให้กับแหวนคู่ของคุณ 

4.แตกตางที่สีโลหะและพื้นผิว

หากรูปแบบดีไซน์เราชอบแบบใก้ลเคียงกัน แต่ไม่อยากให้เหมือนกันเป๊ะขนาดนั้น มาเล่นที่พื้นผิวโลหะให้เป็นแบบเกลี้ยงเงา หรือ ปัดขนแมว โดยเลือกให้ สองวงนั้นมีพื้นผิวที่แตกต่างกัน สีของโลหะก็เป็นอีกตัวช่วยให้ แหวนคู่ของคุณมีความใหม่ไม่เหมือนใคร คือเลือกวงละ 1 สีเช่น วงหนึ่งสี white gold อีกวงเป็นสี rosegold ก็น่ารักดีคะ

5.แหวน 2-tone สองสีในวงเดียว 

แหวนแบบนี้เราแนะนําว่าให้ออกแบบให้เหมือนกันเขาไว้ (แต่เพิ่มความกิ๊บเก๋ที่หน้ากว้างแหวนให้มีเล็ก-ใหญ่ต่าง กัน) และเทคนิคการทําสีตัวเรือนให้มี2สีใน 1วง แบบนี้ออกจะดูแฟชั่นสักหน่อย แต่รับรองว่าน่ารักไม่จําเจแน่นอนคะ

นี่เป็นเพียงแค่ไอเดียบางส่วนที่จะเพิ่มลูกเล่นให้กับดีไซน์แหวนคู่ของคุณให้สนุก ไม่เหมือนใครคะ 

---

	Written by Sornsida Y. Chanonprapa (G.D. GIA 2015)
	Diamond Nerd จากสถาบัน GIA ศึกษาเรียนรู้ หัด grading เพชรมาโดยเฉพาะ บวกกับพื้นฐานเป็นลูกช่างทอง มีประสบการณ์ทำงานใน Field จิวเวลรี่มากว่า 20ปี จึงอยากใช้พื้นที่นี้แบ่งปันความรู้และประสบการณ์กับทุกคนค่ะ

ในบรรดาแหวนทั้งหมดในชีวิตหนึ่งของผู้หญิงเรานั้น แหวนแต่งงานคงเป็นแหวนที่มีความสำคัญมากที่สุดวงหนึ่ง

วันนี้ยุ้ยขอนำเอาเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่เชื่อว่าน่าจะมีประโยชน์ในการแบ่งปัน เพื่อช่วยให้คุณผู้หญิงที่กำลังเลือกแหวนแต่งงานอยู่นั้น ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะคะ

1.เพชรเม็ดกลาง เฮงๆ ด้วยเลขสวย

ตัวเลขที่นิยมในการเลือกเพชรสำหรับแหวนแต่งงานนั้น คงไม่พ้น 4, 5, 8, 9 หากได้น้ำหนักในกลุ่มพรีเมี่ยมไซส์ได้ก็จะดีมากทีเดียวค่ะ เพราะเป็นเพชรที่มีราคาที่น่าสนใจ แถมเป็นเพชรที่เหมาะกับการลงทุนอย่างมาก จึงถือว่าเป็นสมบัติก้นถุงที่ดีงามสำหรับเจ้าสาวจริงๆ ค่ะ

การซื้อเพชรที่ลงตัวเลขกะรัตสวยๆ นี้ นิยมกันมากในฮ่องกง เชื่อมั้ยคะว่าเพชรน้ำหนักยอดฮิต 1.68 กะรัต ที่คนฮ่องกงเค้าเชื่อกันว่าเป็นตัวเลขของมหาเศรษฐีนั้น หายากมากๆ ทีเดียวค่ะ

จริงหรือไม่ บางครั้งยากที่จะพิสูจน์ แต่ถ้าหากได้มาครอบครองเชื่อว่าคงจะทำให้เจ้าของรู้สึกอุ่นอิ่มใจมากขึ้นแน่นอนค่ะ

© CREDIT BY: JEANDOUSSET.COM

2. เพชรข้าง การสนับสนุนและค้ำชู

เคล็ดลับข้อนี้ คือ การเลือกดีไซน์ที่มีเพชรเม็ดข้างประกบเม็ดกลางด้วย เป็นความเชื่อว่าเจ้าสาวที่กำลังจะแต่งงานย้ายเข้าไปอยู่กับครอบครัวใหม่นั้นจะมีคนรอบข้างช่วยสนับสนุนค้ำชู อบอุ่น และไม่โดดเดี่ยวค่ะ

แบบแหวนประเภทนี้ก็มีหลากหลายนะคะ เช่น แหวนทรง 3-stone (คล้ายๆ แหวนแถว โดยที่เม็ดกลางจะมีขนาดใหญ่ที่สุด) หรือจะเป็นแหวนที่มีเพชรแฟนซีทรงอื่นๆ อย่างเช่น เพชรทรงไข่ ทรงหัวใจ ทรงหยดน้ำ เอามาออกแบบประกบข้างก็สวยแปลกตา เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองดีค่ะ

© CREDIT BY: PINTEREST.COM

3. แหวนคู่ แทนใจ

แหวนแต่งงานสำหรับผู้หญิงนั้น เป็นแหวนที่รักที่สุด แต่กลายเป็นว่าใส่น้อยที่สุด อาจเป็นเพราะกลัวหายบ้าง กลัวโดดเด่นเกินไปบ้าง หรือกลัวใส่แล้วไปกระแทกนั่นกระแทกนี่ให้เหนื่อยใจตัวเองกันบ่อยๆ หลังจากงานแต่งเสร็จสิ้นก็อันเชิญเก็บเข้าตู้เซฟชนิดที่เรียกว่าฝังลืมกันไปข้างนึง ถ้าคุณเป็นหนึ่งที่คิดแบบนี้ ขอแนะนำว่าคุณควรมีแหวนคู่อีกวงที่สามารถใส่ประกบคู่กันกับแหวนวงใหญ่ของคุณค่ะ

แหวนวงนี้อาจจะเป็นแหวนเรียบๆ เกลี้ยงๆ หรือ แหวน eternity ring เก๋ๆ สักวง หรือ เป็นแหวนเพชรวงเล็กๆ ที่ดีไซน์มาให้เข้าคู่กันกับแหวนวงใหญ่ของคุณโดยเฉพาะก็ได้นะคะ ในวันธรรมดาเราสามารถใส่วงนี้วงเดียว ส่วนวันที่พิเศษๆ ก็หยิบวงใหญ่ออกมาใส่คู่กัน สวยไปอีกแบบค่ะ

พบกันใหม่ ในบทความที่จะช่วยให้คุณเลือกซื้อเพชรได้อย่างมั่นใจ ในสัปดาห์หน้าค่ะ

Note: ผู้เขียนเรียบเรียงข้อมูลมาจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนเองเพื่อนำมาใช้ถ่ายทอดความรู้ให้กับคนไทยที่สนใจเรื่องเพชรโดยทั่วไป เพื่อใช้เป็นข้อมูลเสริมในการตัดสินใจเลือกซื้อเพชรเท่านั้นค่ะ

แหวนหมั้น กับ แหวนแต่งงานต่างกันอย่างไร?

---

ก่อนอื่นแหวนทั้งสองวงนี้เป็นแหวนของฝ่ายหญิง ที่ฝ่ายชายจัดเตรียมหาไว้ให้นะคะ ส่วนแหวนทั้งสองต่างกันอย่างไร เป็นแหวนวงเดียวกันรึไม่ มาลองอ่านดูกันค่ะ

ในธรรมเนียมฝรั่งนั้นแหวนหมั้นจะใช้สำหรับการ “ขอแต่งงาน” โดยแหวนนี้มักจะมีลักษณะสำคัญคือ มีเพชร หรือ พลอย ที่ค่อนข้างดูหรูหราโดดเด่นอยู่ตรงกลางแหวน แหวนลักษณะนี้เรียกว่าแหวน Solitaire Ring

Engagement Ring หรือ แหวนหมั้น
นี้จะแสดงถึงฐานะความมั่งคั่งของฝ่ายชาย อีกทั้งยังเป็นแหวนที่ต้องให้ฝ่ายหญิงใส่ไปตลอดนับตั้งแต่วันขอแต่งงานไปจนถึงวันแต่งงาน เพื่อเป็นการตีตราจองบอกสังคมให้รู้ชัดกันไปเลยว่า ผู้หญิงคนนี้มีเจ้าของแล้ว นะ แหวนหมั้นจึงต้องดูสวยงามและหรูหราสักหน่อยค่ะ

ส่วนแหวนแต่งงานนั้น มักเป็นแหวนที่เรียบง่ายลงมาหน่อยนึง ซึ่งอาจจะเป็นแหวนเกลี้ยงๆ แหวนเพชรรอบวง (eternity ring) หรือแหวนแถวเรียบๆ จึงนิยมเรียกกันอีกชื่อว่า Wedding band ซึ่งใช้สำหรับใส่ในพิธีแต่งงานแบบชาวตะวันตกที่มีขั้นตอนการแลกแหวนกันนั่นเองค่ะ

ในตอนทำพิธีนั้นเจ้าสาวจะนำเอาแหวนหมั้นไปใส่ไว้ที่นิ้วนางข้างขวาก่อน ต่อเมื่อเสร็จพิธีแลกแหวนก็จะนำเอาแหวนแต่งงานกลับไปใส่ที่นิ้วนางข้างซ้ายตามเดิมซึ่งจะอยู่บนแหวนแต่งงานอีกที จึงเป็นที่มาของการใส่แหวนแต่งงานสองวง ซึ่งในบางกรณี หลังจากแต่งงานแล้วผู้หญิงอาจจะเลือกใส่แหวนเพียงวงเดียว วงใดวงนึงก็ได้แล้วแต่ความชอบ สไตล์การแต่งตัว หรือแม้กระทั่งแล้วแต่ไลฟ์สไตล์ว่าเหมาะกับการใส่แหวนแบบไหนอย่างไร ปัจจุบันนี้ หลายๆ ครั้งแอบเห็นใส่กันทั้งสองวงเลยก็มีค่ะ แล้วแต่สไตล์จริงๆ ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวแน่นอน

ส่วนในธรรมเนียมของไทยนั้น ยังไม่พบประวัติที่เกี่ยวกับแหวนหมั้นแหวนแต่งงานที่ชัดเจน มีเพียงแต่เรื่องสินสอดทองหมั้นที่น่าจะรวมไปถึงแก้วแหวนเงินทองที่ฝ่ายชายนำมาขอแต่งงาน ส่วนในทางปฏิบัติจริงๆ นั้น โดยมากแล้วฝ่ายชายมักเตรียมแหวนเอาไว้อย่างน้อย 1 วง เพื่อใช้ในงานพิธี และสามารถใส่ติดมือไปได้ตลอดหลังจากงานแต่งเสร็จสิ้นลง แต่ด้วยยุคสมัยที่มีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมกันอย่างแพร่หลายอย่างในทุกวันนี้ ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อย เริ่มหันมานิยมตามธรรมเนียมฝรั่งกันมากขึ้น ทำให้มีทั้ง engagement ring และ wedding ring ทั้งสองวง ซึ่งถือว่าเป็นแหวนคนละวงกันตามที่ได้เล่ามานะคะ ส่วนบ้านไหนจะได้กันกี่วง เรื่องนี้คงต้องไปตกลงกันเองค่า